ฮีทสโตรก
ในช่วงหน้าร้อนเดือนเมษายนนี้ คาดการณ์ว่าอุณหภูมิในปี 2566 นี้จะขึ้นไปแตะสูงสุดถึง 40-43 องศาเซลเซียส โดยสภาพอากาศที่ร้อนจัดแบบนี้จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราอย่างมาก ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะโรคฮีทสโตรก หรือโรคลมแดดจากความร้อนที่สูงได้ ที่มีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ วันนี้ กาญวริญ มีอาการของโรคฮีทสโตรก การปฐมพยาบาล และวิธีป้องกันตัวเองจากโรคฮีทสโตรก มาฝากเพื่อนๆ ครับ
ฮีทสโตรก หรือโรคลมแดด เป็นโรคที่จะเกิดขึ้นจากร่างกายมีความร้อนสูงมากเกินไป ไม่สามารถปรับลดหรือควบคุมความร้อนในร่างกายได้ ซึ่งจะส่งผลทำให้ร่างกายมีความร้อนสะสมขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ไม่สามารถลดระดับความร้อนลงได้เลย หากเกิดอาการแล้วและไม่สามารถระบายความร้อนออกจากในร่างกายมากกว่า 2 ชั่วโมง อาจส่งผลทำให้ชักกระตุก เกร็ง หมดสติและถึงขั้นเสียชีวิตได้!
ซึ่งอาการของโรคฮีทสโตรกนั้นจะเริ่มส่งสัญญาณเตือนด้วยอาการดังต่อไปนี้
- มีไข้ อุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส
- ผิวหนังแดงและร้อน แต่ไม่มีเหงื่อออก
- ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว หายใจหอบ
- กระหายน้ำมาก
- วิงเวียน ปวดศีรษะ มึนงง หน้ามืด
- คลื่นไส้ อาเจียน
- เริ่มชักกระตุก เกร็ง และหมดสติไป
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเบื้องต้นเมื่อเกิดโรคฮีทสโตรก หรือโรคลมแดด
- รีบนำคนป่วยเข้าไปอยู่ในที่ร่ม ไม่โดนแสงแดด และควรเป็นสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเท เพื่อทำให้อุณหภูมิลดลง
- ให้คนป่วยนอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น
- คลายเสื้อผ้าให้หลวม เพื่อคลายอุณหภูมิให้ลดลง ระบายความร้อนได้ไวขึ้น
- ใช้ผ้าชุบน้ำเย็น หรือน้ำแข็งประคบตามซอกคอ ตัว รักแร้ ขาหนีบ หน้าผาก
- ถ้ามีพัดลมให้เปิดพัดลมเป่าระบายความร้อน หรือน้ำเย็นราดตัว เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกายให้ลดลงอย่างรวดเร็วที่สุด
- หากยังมีสติอยู่ ควรให้ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด หรือแจ้งสายด่วน 1669
วิธีป้องกันตัวเองจากโรคฮีทสโตรก หรือโรคลมแดด
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ต้องอยู่กลางอากาศอันร้อนจัด
- สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายความร้อนได้ดีและป้องกันแสงแดดได้
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา รวมถึงกาแฟ และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
- อย่าทิ้งเด็ก ผู้สูงอายุ สัตว์เลี้ยง หรือผู้มีโรคประจำตัวไว้ในรถที่จอดอยู่กลางแจ้ง
- อยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเท
- สวมแว่นกันแดด และหมวกปีกกว้าง เพื่อกันความร้อน
- ก่อนออกจากบ้านควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป
นอกจากนี้ควรดูแลกลุ่มเสี่ยงอย่างใกล้ชิด เช่น กลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้มีโรคประจำตัว และกลุ่มอาชีพที่ทำงานกลางแจ้ง ซึ่งหากมีอาการฮีทสโตรกอาจมีความรุนแรงกว่ากลุ่มอื่น ๆ ได้
ถึงกระนั้น ในขณะที่เราอยู่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหน ไม่ได้โดนแสงแดดหรืออยู่ที่กลางแจ้ง แต่ถ้าอากาศในบ้านไม่ถ่ายเท อาจเกิดความร้อนสะสม ที่จะทำให้เป็นฮีทสโตรกได้ จึงควรเช็คอาการหรือร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
ดังนั้นแล้ว เราจะเห็นได้ว่า ฮีทสโตรก ถือว่าเป็นภัยร้ายแรงที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของคนเราในปัจจุบันได้อย่างมากมายและมหาศาล เพราะอาการของมันจะทำให้ผู้ที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย ได้รับความทรมานจากอุณหภูมิในร่างกายที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้น การดูแลตัวเองเพื่อที่จะทำให้ตัวเองของโรคนี้ จึงถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากนั่นเอง