12 สิ่งที่ควรทำก่อนไปเที่ยววันหยุดยาว

12 สิ่งที่ควรทำก่อนไปเที่ยววันหยุดยาว

เดือนธันวาคม นอกจากจะเป็นเดือนสุดท้ายของปี ก็ยังเป็นเดือนที่มีวันหยุดเยอะมากที่สุดเดือนหนึ่งด้วย หลายๆท่านก็นิยมที่จะลาหยุดยาวให้มีคาบเกี่ยวกัน จะได้ลาหยุดได้หลายๆวัน  ไม่ว่าจะขึ้นเหนือไปสัมผัสทะเลหมอก ลงใต้ไปรับแสงแดดริมทะเล หรือ จะไปเปิดโลกกว้างที่ต่างประเทศ

แน่นอนว่า ไปเที่ยวทั้งทีก็ไม่อยากกังวลเป็นห่วงบ้าน ทางออกที่ดีที่สุดคือควรจะวางแผนว่าจะต้องทำอะไรบ้างก่อนออกจากบ้าน เพื่อจะได้ใช้เวลาช่วงวันหยุดยาวพักผ่อนให้เต็มที่ วันนี้กาญวริญมีเช็คลิสต์ที่จะมาช่วยเตือนทุกๆท่าน ว่า ควรจะทำอะไรบ้างก่อนออกจากบ้าน กับ 12 สิ่งที่ควรทำก่อนออกไปเที่ยววันหยุดยาว

1. ประตูหน้าต่าง ด่านหน้าของบ้าน ควรตรวจจุดชำรุดต่างๆ ว่ามีความเสียหาย หรือผุพังตรงไหนบ้างรึเปล่า  โดยเฉพาะบริเวณ กลอน บานพับ ลูกบิด รวมไปถึง มุ้งลวด เหล็กดัด หากพบว่ามีส่วนที่ชำรุด ควรซ่อมทันที

 

2. ระบบไฟฟ้าในบ้าน เรื่องนี้สำคัญมาก ก่อนจะออกไปพักวันหยุดยาว ควรดูให้แน่ใจว่าปลั้กภายในบ้านถูกถอดออกเรียบร้อยแล้ว รวมไปถึงสวิตซ์ไฟต่าง ๆ ควรปิดให้เรียบร้อยก่อนนะคะ ถ้าไปนานหลายสัปดาห์แนะนำให้ถอดปลั๊กไฟตู้เย็นและสับเบรกเกอร์ลงด้วย จะได้ไม่ต้องห่วงกังวลเรื่องไฟฟ้าลัดวงจรค่ะ หรือถ้าบ้านใครติดตั้งระบบเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติไว้ก็จัดการตั้งเวลาให้เรียบร้อย ก็เป็นวิธีช่วยให้บ้านดูเหมือนมีคนอยู่ปกติค่ะ

 

3. ระบบแก๊ส สำหรับบ้านที่มีเตาแก๊ส ควรปิดหัวเตา ปิดวาล์วแก๊สในห้องครัวให้เรียบร้อย พร้อมตรวจเช็คว่าไม่มีการรั่วไหลของแก๊ส หากสามารถใส่แม่กุญแจล็อคได้ ก็ควรล็อคไปเลยค่ะ

 

4. ระบบน้ำ ตรวจสอบระบบน้ำ ปิดปั๊มน้ำหรือวาล์วน้ำ ก๊อกน้ำ รวมถึงจุดเชื่อมต่อระบบน้ำภายในบ้านให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในเรื่องระบบน้ำจนลุกลามกลายเป็นน้ำท่วมบ้านเมื่อเรากลับมาถึง หากมีจุดที่รั่วซึมหรือชำรุดก็ควรซ่อมก่อนไปเที่ยวนะคะ

 

5. จัดการขยะให้เรียบร้อย นี่เป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม เพราะถ้าหากเราลืมทิ้งขยะ เศษอาหารในถังขยะก็จะเน่าเสีย พอกลับมาบ้าน กลิ่นก็จะคละคลุ้งปะทะหน้าแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เชื้อเชิญแขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่างดี เข้ามาตอนเราไม่อยู่บ้านไม่ว่าจะเป็นหนู มด แมลงสาป ทางที่ดีควรจัดการซะให้เรียบร้อยก่อนออกจากบ้าน เพื่อสุขลักษณะของบ้านเราเอง รวมไปถึงล้างจานที่ค้างไว้แล้วคว่ำให้เรีบร้อยด้วยนะคะ

 

6. ซักผ้าที่กองอยู่ให้เรียบร้อย กองเสื้อผ้าที่ทิ้งไว้ ควรซักก่อนออกไปเที่ยวนะคะ เพราะหากเราไปหลายวันกองเสื้อผ้าเหล่านี้ จะเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียและเชื้อโรคอย่างดี ทำให้เกิดกลิ่นอับในเสื้อผ้า ยากต่อการเอากลิ่นออกนะคะ

 

7. เคลียร์ของในตู้เย็นให้เรียบร้อย อาหารสด อาหารที่ใกล้หมดอายุ ควรนำมาประกอบอาหารก่อนออกจากบ้านนะคะ ถ้าสิ่งเหล่านี้เน่าเสียในตู้เย็น จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ เพราะกลิ่นเหม็น กลิ่นอับ จะติดอยู่ในตู้เย็น และกลายเป็นว่าจะทำความสะอาดล้าง ทำความสะอากตู้เย็นครั้งใหญ่เลย

 

8. ต้นไม้และสวน สายเขียวรักต้นไม้ ไม่อยู่บ้านนาน มีกังวลแน่นอน ทางแก้ที่ง่ายที่สุดคือฝากใครสักคนช่วยดูแล อาจจะเป็นญาติ หรือเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ให้มาช่วยรดน้ำ แต่ถ้าอยากแก้ไขปัญหานี้ในระยะยาว และมีงบประมาณนิดหน่อย อาจจะติดตั้งระบบจ่ายน้ำอัตโนมัติ ที่สำคัญอย่าลืมตัดหญ้าก่อนออกจากบ้านด้วยนะคะ มิเช่นนั้น อาจจะกลายเป็นแหล่งชุมนุมของสัตว์เลื้อยคลาน หรือสัตว์มีพิษได้ค่ะ

 

9. เก็บของมีค่าไว้ในที่ปลอดภัย ก่อนออกจากบ้าน ควรจะเก็บเอกสารสำคัญและของมีค่า ไว้ในตู้ที่มีกุญแจล็อค บ้านไหนมีตู้เซฟก็เอาไว้ในนั้นได้เลย แต่ถ้ายังไม่มั่นใจ ก็สามารถนำไปฝากธนาคารได้ค่ะ

 

 

10. ตรวจสอบสัญญาณกันขโมย และกล้องวงจรปิด หากใครติด ควรเช็คให้แน่ใจว่ามันยังสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนเดิมหรือไม่ เช็คการเชื่อมต่อที่เชื่อมกับสมาร์ทโฟน ให้แน่ใจได้ว่าคุณจะได้เห็นทุกความเคลื่อนไหวภายในบ้าน

 

11. สัตว์เลี้ยง ถ้าไม่ได้พาน้องไปด้วย อย่าลืมหาคนที่จะมารับเลี้ยงน้องๆนะคะ และเป็นคนที่เราไว้ใจได้ ถ้าหากไปเที่ยวนาน ๆ ควรทิ้งเงินค่าอาหารและค่าของใช้ต่าง ๆ ไว้ให้น้องและควรดีลกับคนเลี้ยงให้แน่ใจถึง นิสัยของน้อง ๆ น้องชอบหรือไม่ชอบอะไร ให้อาหารเวลาไหน ป่วยเป็นโรคอะไรหรือป่าว มียาที่ต้องกินไหม เอาเป็นจนแน่ใจว่า น้อง ๆ จะไม่มีปัญหาระหว่างทริปของเรา หรืออาจจะไปฝากร้านสัตวแพทย์ประจำตัวของน้องก็ได้

 

12. ฝากกุญแจสำรองไว้กับคนที่ไว้ใจ ฝากกุญแจสำรองไว้ให้กับคนที่ไว้ใจได้ ในกรณีฉุกเฉินที่อาจจะต้องเข้าไปภายในตัวบ้าน จะได้มีคนที่สามารถเข้าไปภายในบ้านเราได้ โดยที่เราไม่ต้องกลับจากทริปกลางคัน

 

13. ฝากบ้านไว้กับตำรวจ  สำหรับโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ทุกท่านสามารถดาวน์โหลดแอพลิเคชั่น “ฝากบ้าน 4.0” ไว้ในมือถือได้เลย โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. เปิดแอปพลิเคชัน “ฝากบ้าน 4.0” แล้วลงทะเบียนกรอกข้อมูล
  2. เลือกหน่วยงานที่ต้องการติดต่อ (สถานีตำรวจที่ขอรับบริการฝากบ้าน)
  3. เลือกเมนู “ฝากบ้าน” แล้ว กดเลือก “ฝากบ้านของฉัน”
  4. กรอกรายละเอียดคำร้อง
  5. ตรวจสอบคำร้อง ผ่านเมนู “ข้อมูลของฉัน”
    นอกจากการดำเนินโครงการฝากบ้านผ่านแอปพลิเคชันแล้ว สำหรับประชาชนที่ต้องการ  เข้าร่วมโครงการสามารถแสดงความจำนงค์ด้วยการยื่นแบบฟอร์มเข้าร่วมโครงการฯ ที่สถานีตำรวจที่บ้านในเขตพื้นที่รับผิดชอบได้เช่นเดียวกัน

ข่าวสารอื่นๆ

แนะนำโรงเรียนราชบุรีชื่อดังทั้ง 5 แห่ง พร้อมรายละเอียดและแผนที่เดินทาง ใครกำลังมองหาโรงเรียนดี ๆ ให้ลูกหลาน ห้ามพลาด
Erkunde Deutschlands größte Escort-Community: Orhidi.com. Erlebe die größte Escort-Community Deutsch…
รวมลักษณะแมวมงคล 5 สายพันธุ์ ที่คนรักแมวห้ามพลาด